ทำสถิติใหม่ ราคาสูงสุดเป็น ประวัติการณ์อย่างต่อเนื่อง สำหรับราคาทองคำในประเทศช่วงนี้ นับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา เราได้เห็นทิศทางราคาทองคำอยู่ที่ระดับ 33,000 ถึง 34,000 บาท ต่อบาททองคำแต่ผ่านมา 2 เดือน ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้น ชนิดที่หลายคนบอกว่าไม่เคยเห็นราคาทองคำสูงขนาดนี้มาก่อนในชีวิต
ทำให้ตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมาคนแห่ไปร้านทองกันคึกคักโดยเฉพาะที่เยาวราชไปรอตั้งแต่ร้านทองยังไม่เปิดมีทั้งคนที่ทยอยนำทองออกมาขายทำกำไร และคนที่ซื้อไปสะสมเพิ่ม หวังว่าราคาจะพุ่งไปมากกว่านี้
เปิด 5 ปัจจัยสำคัญ คาดการณ์ราคาทอง ต้องดูอะไรบ้าง?
เช็กทิศทางราคาทอง ไปต่อ หรือ พอแค่นี้ ? หลังทำสถิติสูงสุดรายวัน
ทำให้ราคาทองไทยเข้าสู่แนวโน้มทิศทางขาขึ้นอย่างชัดเจนโดยเฉพาะช่วงเดือนกุมภาพันธ์ต่อเนื่องต้นเดือนมีนาคมนี้ราคาทองคำขยับขึ้นทำสถิติใหม่All Time High หลายครั้งอย่างในวันที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมา เพียงวันเดียว ราคาขยับขึ้นถึง 700 บาท ทำให้ราคาทองคำในประเทศ แตะ 36,000 บาท ต่อบาททองคำเป็นที่เรียบร้อย
มีข้อมูลจาก ประธานกรรมการฝ่ายบริหาร กลุ่มบริษัท MTS โกลด์ แม่ทองสุก วิเคราะห์ปัจจัยที่ทำให้ราคาทองปีนี้พุ่งแรง หลักๆมาจากเศรษฐกิจในสหรัฐคาดว่าจะเป็นช่วงดอกเบี้ยขาลง หลังจากอัตราเงินเฟ้อสหรัฐเริ่มชะลอตัว คนจึงหันไปลงทุนในทองคำ ซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย
ขณะที่ปัจจัยในประเทศ ภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ฟื้นตัวดีGDP ปีที่แล้วโตประมาณ 2% ต่ำกว่าที่คาดการท่องเที่ยวและ ส่งออกยังไม่ดีเท่าที่ควร กดดันค่าเงินบาทไทยอ่อนค่าลงต่อเนื่อง เกือบ 36 บาทและยังมีแนวโน้มอ่อนค่าต่อเนื่อง เมื่อคำนวณกลับมาเป็นราคาทองคำ ทำให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น
ฟังมาถึงตรงนี้ หลายคนคงมีคำถามว่าในภาวะที่ราคาทองเป็นขาขึ้น แถมขึ้นแรงแบบนี้ ทองคำยังน่าลงทุนอยู่มั้ยถ้าซื้อตอนนี้ยังมีโอกาสกำไรหรือเปล่า
มีคำแนะนำ แม้ว่าราคาทองจะพุ่งสูง แต่หากมองถึงผลตอบแทนเป็นการออมระยะยาว ทองคำยังถือว่าเป็นการลงทุนที่น่าสนใจและได้ผลตอบแทนค่อนข้างดีอย่างน้อยๆคนที่เข้าซื้อทองคำ ในช่วงที่ราคากำลังปรับสูงขึ้น ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน จะได้รับผลตอบแทนเฉลี่ยกว่า 7% ซึ่งมากกว่า คนที่ถือเงินบาทอยู่ในมือ หรือฝากธนาคารคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
ส่วนคนที่ถือทองคำอยู่ในมือเวลาที่ทองขึ้นแบบนี้เรามักจะเห็นบรรยากาศของคนไปแห่ขายทองกันแน่นร้านมีคำแนะนำว่า ไม่ต้องใจร้อนรีบขายจนหมดให้ทยอยขายทำกำไรบางส่วน และเก็บบางส่วนไว้รอลุ้นต่อ
ส่วนทิศทางราคาทองคำคุณหมอกฤชรัตน์ประเมินว่ายังมีโอกาสปรับขึ้นอีก โดยในระยะสั้นจากนี้ไปจนถึงช่วงสิ้นเดือนมีนาคมนี้ จากปัจจัยราคาทองในตลาดโลกยังขึ้นได้อีก และเงินบาทที่ยังมีแนวโน้มออนค่าทำให้ราคาทองคำในประเทศมีโอกาส แตะ 36,500 บาทต่อบาททองคำ ส่วนในระยะยาวปีนี้ น่าจะได้เห็น All Time High ใหม่เรื่อยๆ ทองไทย มีโอกาส ขึ้นไปแตะที่ 38,000 -40,000 บาทต่อบาททองคำ